สถานที่ท่องเที่ยว
ทะเลหมอกจาเราะกางา
คะแนนโหวต 5.00/5 คะแนน จากผู้โหวต 1 ท่าน

ทะเลหมอกจาเราะกางาและถ้ำลับแลจาเราะอายัม ทะเลหมอกจาเราะกางาและถ้ำลับแลจาเราะอายัม มีลักษณะเป็นสันเขาหินแนวยาว มีโพรงกลวง ภายในจะมีถ้ำ ส่วนยอดเขาสูงที่สุดมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 467 เมตร หรือ 1,557 ฟุต เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก 2 แผ่นดิน (ไทย-มาเลเซีย) และในเวลาไม่มีหมอก สามารถมองเห็นเมืองเบตง เพราะมีระยะห่างเมืองเบตงแค่ 4.5 กม. เป็นจุดชมทะเลหมอกที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองเบตง บริเวณทะเลหมอกจาเราะกางามีระบบนิเวศทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ สามารถพบเห็นเฟิร์นบัวแฉก เป็นเฟิร์นดึกดำบรรพ์ที่สุดชนิดหนึ่งของโลก เฟิร์นบัวแฉกมีต้นตระกูลที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ ๒๒๕ ล้านปี เฟิร์นบัวแฉกเป็นพืชหายากแทบสูญพันธุ์ไปจากป่าเมืองไทย ในขณะนี้สามารถหาดูได้ที่เขาหลวง และป่าบางแห่งทางภาคใต้เท่านั้น นอกจากนั้น ชุมชนรอบๆของกุนุงจาเราะกางาก็เป็นแหล่งชุมชนโบราณ ตั้งแต่ชุมชนจาเราะกางาจาเราะอายัม กาแป๊ะกอตอ ที่ตั้งวังเก่าวังโบราณแห่งเมืองเบตง และกาแป๊ะฮูลู อันเป็นชุมชนสุดท้ายติดชายแดนมาเลเซีย ซึ่งชุมชนทั้งหมดนี้ จะมีวัฒนธรรมการกินที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นไม่เหมือนที่ใดในแผ่นดิน เช่น กาแฟโบราณ และข้าวหลามบาซูก้า (ปูโล๊ะลือแม) ข้าวหลามบาซูก้า(ปูโล๊ะลือแม)บ้านกาแป๊ะกอตอในขึ้นชื่อเรื่องการทำปูโละลือแม ข้าวหลามของเบตงจะแตกต่างจากข้าวหลามของที่อื่น ตรงที่ลำไผ่จะมีความยาวเกือบ 1 เมตร ชื่อข้าวหลามบาซูก้า มาจากข้าวหลามที่ทั้งใหญ่ทั้งยาวเหมือนปืนบาซูก้า ขั้นตอนการทำนั้น หาไผ่ที่ไม่มีเยื่อด้านใน เนื้อไม่หนาไม่บางเกินไป เวลาเผาจะได้ร้อนทั่วถึง จากนั้นนำใบตองอ่อนไว้หุ้มข้าวแทนเยื่อไผ่ เพื่อป้องกันข้าวเหนียวติดกระบอก และปลอกทานง่าย แล้วนำข้าวเหนียว กะทิ เกลือ กรอกลงในลำไผ่ จากนั้นนำไปเผาอังไฟเบาประมาณ 4 - 6 ชม.เพื่อให้สุกทั่วลำ ชาวบ้านนิยมทานปูโล๊ะลือแมและน้ำแกงเนื้อหรือไก่ในวันสำคัญอย่างวันฮารีรายอ

แสดงความคิดเห็น